รองเท้าเซฟตี้

รองเท้าเซฟตี้ รองเท้า Safety Jogger รองเท้านิรภัย รองเท้าหัวเหล็ก

รองเท้าเซฟตี้ หนังแท้ มีดีไซน์ หัวเหล็กมาตรฐานยุโรป 200 จูลทุกรุ่น

ใส่สบาย ไม่บีบปลายเท้า กันตะปูได้ รองเท้าไม่เปิดอ้าง่าย

เลือกสินค้าใส่ตระกร้า และกดสั่งซื้อ จ่ายปลายทางได้ 081-682-1555 หรือ

catalog logo

ขอใบเสนอราคา / สอบถาม

HOT LINE : 081-682-1555  LINE ID: @er1555  email: er1555@hotmail.com

วิธีการวัดไซส์รองเท้าหัวเหล็ก

1. วัดขนาดความยาวของ รองเท้านิรภัย ตั้งแต่จุดปลายเท้าถึงเส้นจุดส้นเท้า

2. เพื่อความสบายในการสวมใส่ รองเท้านิรภัย  ควรบวกเผื่อไว้ 0.20-0.50 เซนติเมตร แล้วเทียบไซด์รองเท้าหัวเหล็กตามตาราง

หมายเหตุ : ด้านกว้างเท้าไม่จำเป็นต้องวัด เนื่องจากรองเท้าเซฟตี้ของบริษัทหน้ากว้างทุกรุ่น

ตารางไซด์ รองเท้าเซฟตี้

บทความเกี่ยวกับรองเท้าเซฟตี้

การเลือกซื้อ รองเท้าเซฟตี้ หัวเหล็ก

รองเท้าเซฟตี้ ทำจากวัสดุดังนี้

1. วัสดุหนังแท้ 

- หนังแท้เป็นวัสดุที่นิยมมากที่สุด มีความต้องการสูงในท้องตลาด ซึ่งเป็นวัสดุที่มีคนสนใจเป็นจำนวนมาก

- เนื่องจากสามารถใส่ได้ในทุกๆงาน เพราะมีความสุภาพ สามารถทนต่อสิ่งของมีคมได้เป็นอย่างดี

- อีกทั้งยังสามารถใส่ในงานกิจกรรมทั่วไปได้

รองเท้าเซฟตี้ของทางร้านเป็นหนังแท้ทุกรุ่น

เลือกชมรองเท้าทุกรุ่น คลิก

2. วัสดุหนังกลับ

- หนังกลับเป็นหนังแท้ชนิดหนึ่งที่มีความสวยงามต่อการสวมใส่

- เป็นหนังที่มีดีไซน์แตกต่างจากหนังทั่วๆไป ทนต่อสิ่งมีคมได้ดี

3. ผ้าใบเซฟตี้

- เป็นรองเท้าผ้าใบสามารถใส่เที่ยวได้

- ดูไม่ออกว่าเป็นรองเท้าหัวเหล็ก

- ข้อดีที่สำคัญของรองเท้าผ้าใบก็คือ สามารถระบายอากาศได้ดี

- สามารถซักล้างได้เหมือนผ้าใบทั่วไป

รองเท้าผ้าใบเซฟตี้ มีหลากหลายแบบ

รองเท้าเซฟตี้ ผ้าใบหัวเหล็ก คลิก

4. วัสดุ PVC

- เป็นวัสดุที่สามารถกันน้ำได้ มีน้ำหนักเบาที่สุด

- เหมาะสำหรับใส่ในโรงพยาบาล ในครัว หรืองานทั่วไป ที่นิยมเน้นกันลื่น

5. รองเท้าบู้ท PVC เซฟตี้

- เป็นรองเท้าที่สามารถกันน้ำซึมเข้าได้ 100%

- นิยมนำมาใช้ในงานเดินป่า งานเดินลุยในกองขยะ ที่มีโอกาสที่จะมีสิ่งแหลมคมทิ่มแทงทะลุขึ้นมาได้

- เนื่องจากมีหัวเหล็กและพื้นเหล็ก ป้องกันแรงกระแทกได้ดี

วัสดุกันกระแทกของรองเท้าหัวเหล็ก

1. รองเท้าหัวเหล็ก

- การผลิตรองเท้านิรภัย ส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดก็คือ หัวและพื้นที่ใช้รับแรงกระแทก

- ในการผลิตรองเท้า ส่วนใหญ่นิยมใช้หัวเหล็กและพื้นเหล็กในการทำรองเท้านิรภัย

- บางครั้งนิยมเรียกว่ารองเท้าหัวเหล็ก

2. รองเท้าหัวคอมโพสิต

วัสดุอีกชนิดที่นิยมใช้มากขึ้นแต่ราคาสูงกว่าคือรองเท้าหัวคอมโพสิต (หัว Composite)

- หัว Composite จะมีน้ำหนักเบากว่า แต่ราคาสูงกว่า 

รองเท้าเซฟตี้หัวคอมโพสิต มีหลากหลายแบบ

รองเท้า safety หัวคอมโพสิตคลิก
รองเท้าเซฟตี้

วัสดุที่ใช้ทำพื้นรองเท้าเซฟตี้

1. รองเท้าเซฟตี้หัวเหล็กพื้นยาง

- วิธีการผลิตรองเท้าพื้นยางคือการนำพื้นรองเท้าและตัวรองเท้า เอามาประกอบกันด้วยการทากาวให้ทั่ว

- หลังจากทากาวแล้วจะทำการเย็บติดกันด้วยเครื่องจักรที่ทันสมัย

- ทำให้มีความคงทนได้ดี ได้แก่ 2 รุ่นดังนี้

2. รองเท้าเซฟตี้หัวเหล็ก พื้น TPR

- ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ใช้ทำรองเท้าผ้าใบเซฟตี้

- ปัจจุบันกำลังเป็นที่นิยมในช่วงปี 2019 นี้

- เนื่องจากรองเท้าผ้าใบมีน้ำหนักเบา และยังสามารถระบายอากาศได้ดีกว่ารองเท้าหนัง

- เหมาะกับเมืองไทยเป็นอย่างยิ่ง ได้แก่

3. รองเท้าเซฟตี้ หัวเหล็ก พื้นพียู

- ผลิตจัดการฉีดสารเคมีชนิดโพลียูรีเทนขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียวกันกับตัวรองเท้าเซฟตี้

- ทำให้มีความแข็งแรงมากกว่า และมีความคงทนกว่า

- โพลียูรีเทน(Polyulethane) นี้มีทั้งแบบสูตรธรรมดาและสูตรเข้มข้น

- เป็นที่นิยมที่สุดเนื่องจากน้ำหนักเบาและกันลื่นได้ดีกว่าพื้นยางและพื้น TPR ได้แก่

รองเท้าเซฟตี้ elevate

10 อันดับยอดขาย รองเท้าเซฟตี้ ที่ขายดี

อันดับที่ 1 รองเท้านิรภัย ยี่ห้ออาร์มสตรองและแฮมเมอร์ (คลิกดู)
รองเท้าหัวเหล็ก ราคา คุ้มค่า อาร์มสตรอง รองเท้าเซฟตี้
อาร์มสตรอง
รองเท้าเซฟตี้ ราคาถูก
แฮมเมอร์

- ผลิตจากหนังแท้อัดลาย

- หัวทำจากเหล็ก พื้นเสริมเหล็กกันทะลุ

- พื้นรองเท้าผลิตจากยาง ยึดติดกับตัวรองเท้าด้วยการทากาวและเย็บรอบพื้นรองเท้า

- ราคาถูกที่สุด ขายดีที่สุด เป็นรุ่นที่คุ้มค่าที่สุดในตลาด

อันดับที่ 2 รองเท้านิรภัย ยี่ห้อ SPRINT (คลิกดู)

– หนังแท้ พื้น Double Density PU

– หัวเหล็กรับแรง 200 จูล พื้นเสริมเหล็ก 1100 นิวตัน มาตรฐานยุโรป

– ขนาด 37-47

– หนังทนต่อน้ำมัน สารเคมี และสิ่งมีคม

– พื้นรองเท้ากันลื่นน้ำมันได้ดี

– หน้ากว้างพิเศษและรองเท้ามีระบบระบายอากาศ

อันดับที่ 3 รองเท้านิรภัย ยี่ห้อร็อคโค่ (คลิกดู)

- หนังแท้ ทำจากหัวเหล็ก พื้นเสริมเหล็กกันทะลุ

- พื้นรองเท้าทำจากวัสดุ PU (Polyurethane) ผลิตจากการฉีดโพลียูรีเทนติดกับตัวรองเท้า ทำให้มีความคงทนกว่า

- รองเท้ายี่ห้อร็อคโคแบบหนังมีแบบหุ้มข้อ สามารถป้องกันการบาดบริเวณข้อเท้าได้

- ใส่สบาย น้ำหนักเบา

อันดับที่ 5 รองเท้าหัวเหล็ก รุ่น Safetyrun Safetyboy (คลิกดู)

- รองเท้าหัวเหล็ก แบรนด์ของประเทศเบลเยี่ยม 

- รองเท้าหนังแท้ ทำจากหัวเหล็ก พื้นเสริมเหล็กกันทะลุ

- พื้นรองเท้าทำจากวัสดุ PU (Polyurethane) ผลิตจากการฉีดโพลียูรีเทนติดกับตัวรองเท้า ทำให้มีความคงทนกว่า

- รองเท้าหัวเหล็ก แบบหนังมีทั้งหุ้มส้นและหุ้มข้อ

- รุ่นหุ้มส้นใส่สบาย น้ำหนักเบา

- รุ่นหุ้มข้อสามารถป้องกันการบาดบริเวณข้อเท้าได้

อันดับที่ 6 รองเท้าหัวเหล็ก รุ่น Bestrun Bestboy (คลิกดู)

- รองเท้า Safety Jogger แบรนด์ของประเทศเบลเยี่ยม 

- รองเท้านิรภัยหนังแท้ ทำจากหัวเหล็ก พื้นเสริมเหล็กกันทะลุ

- พื้นรองเท้าทำจากวัสดุ PU (Polyurethane) สูตรเข้มข้น ผลิตจากการฉีดโพลียูรีเทนติดกับตัวรองเท้า ทำให้มีความคงทนกว่า

- รองเท้านิรภัยแบบหนังมีทั้งหุ้มส้นและหุ้มข้อ

- รุ่นหุ้มส้นใส่สบาย น้ำหนักเบา

- รุ่นหุ้มข้อสามารถป้องกันการบาดบริเวณข้อเท้าได้

อันดับที่ 7 รองเท้า Safety Jogger แบบยอดนิยม (คลิกดู)

- รองเท้า Safety Jogger แบรนด์ของประเทศเบลเยี่ยม มีดีไซน์ หนังผสมผ้าใบ เป็นที่นิยมในทวีปยุโรป

- รองเท้านิรภัยหนังแท้ ทำจากหัวเหล็ก พื้นเสริมเหล็กกันทะลุ

- พื้นรองเท้าทำจากวัสดุ PU (Polyurethane) สูตรเข้มข้น ผลิตจากการฉีดโพลียูรีเทนติดกับตัวรองเท้า ทำให้มีความคงทนกว่า

- รองเท้านิรภัยแบบหนังมีทั้งหุ้มส้นและหุ้มข้อ

- รุ่นหุ้มส้นใส่สบาย น้ำหนักเบา

- รุ่นหุ้มข้อสามารถป้องกันการบาดบริเวณข้อเท้าได้

อันดับที่ 8 รองเท้าเชฟ (คลิกดู)

- รองเท้าเชฟ มีดีไซน์ เป็นที่นิยมในทวีปยุโรป

- รุ่นหุ้มส้นใส่สบาย น้ำหนักเบา

รองเท้าเซฟตี้ bestboy

รองเท้าเซฟตี้รุ่นขายดี หนังแท้ หุ้มส้น 

รองเท้าเซฟตี้รุ่นขายดี หนังแท้ หุ้มข้อ

รองเท้าเซฟตี้รุ่นขายดี ผ้าใบ หุ้มส้น

รองเท้าเซฟตี้ เสริมแผ่นเคฟล่าร์ กันทะลุ

รองเท้าเซฟตี้รุ่นขายดี ผ้าใบ หุ้มข้อ

รองเท้าเซฟตี้รุ่นขายดี หัวคอมโพสิต

รองเท้าหัวเหล็ก หนังกลับ

รองเท้าเซฟตี้รุ่นขายดี ของ Safety Jogger

รองเท้าเซฟตี้รุ่นขายดี ทรงผู้หญิง

รองเท้าเซฟตี้รุ่นขายดี สีขาว

รองเท้าเซฟตี้แบบรัดส้น

รองเท้าเซฟตี้สำหรับงานครัว

รองเท้าบู้ทเซฟตี้

catalog logo

ขอใบเสนอราคา / สอบถาม

HOT LINE : 081-682-1555  LINE ID: @er1555  email: er1555@hotmail.com

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ รองเท้าเซฟตี้

1. ข้อแตกต่างของรองเท้าเซฟตี้รุ่นอาร์มสตรอง กับ รุ่นแฮมเมอร์

รองเท้าทั้ง 2 รุ่นนี้ มีสเปคเท่ากันต่างกันที่

  • สีของเชือก รองเท้านิรภัย ซึ่งแฮมเมอร์จะมีสีส้มดำ ส่วน รองเท้าหัวเหล็ก อาร์มสตรองจะมีสีเทาดำ

  • แผ่นรองในรพื้นใน รองเท้าหัวเหล็ก แฮมเมอร์จะมีสีส้ม ส่วนอาร์มสตรองจะมีสีเทา

  • ด้ายที่ใช้เย็บ รองเท้านิรภัย รุ่นแฮมเมอร์จะใช้ได้สีส้ม สวดอาร์มสตรองจะใช้ได้สีเทา

2. รองเท้าเซฟตี้รุ่น Safetyrun / Safetyboy ต่างกับรุ่น Bestrun / Bestboy อย่างไร

  • รองเท้านิรภัย รุ่น Safetyrun จะเป็นพื้น PU สูตรธรรมดา

  • ส่วน รองเท้านิรภัย รุ่น Bestrun  จะเป็นพื้น PU สูตรเข้มข้น จะสามารถกันลื่นได้ดีกว่า

  • รองเท้านิรภัย สามารถทนต่อกัดของสารเคมีและน้ำมันได้มากกว่า

  • ทำให้อายุการใช้งานยาวนานกว่า

3. รองเท้าเซฟตี้ รุ่นร็อคโค่ ต่างกับรุ่น Safetyrun / Safetyboy อย่างไร

  • รองเท้าทั้ง 2 รุ่นนี้มีสเปคที่เท่าเทียมกัน

  • ต่างกันที่ รองเท้านิรภัย รุ่น Safetyrun / Safetyboy สามารถกันไฟฟ้าสถิตย์ได้

  • รองเท้าหัวเหล็ก รุ่น Safetyrun / Safetyboy เป็นแบรนด์ของ Safety jogger ซึ่งเจ้าของแบรนด์เป็นประเทศเบลเยี่ยม มุลค่าแบรนด์จะสูงกว่า

  • ซึ่งเป็นที่นิยมในทวีปยุโรป ทำให้มีราคาที่สูงกว่า 

  • ส่วน รองเท้าหัวเหล็ก รุ่นร็อคโค่เป็นแบรนด์ OEM รับจ้างผลิต ทำให้ราคาต่ำกว่า เนื่องจากไม่มีต้อนทุนค่าการตลาดต้นทุน

4. รองเท้าเซฟตี้รุ่น กับ JUMPER / CLIMBER อย่างไร

  • รุ่น JUMPER และ CLIMBER เป็นสีโทนเทา-ดำ วัสดุที่ใช้ทำเป็นหัวคอมโพสิต น้ำหนักเบากว่า สามารถเดินผ่านเครื่องตรวจจับโลหะได้เพราะไม่มีส่วนผสมของโลหะ

  • รองเท้าหัวเหล็ก รุ่น X2020P / X2000 เป็นโทนสีน้ำตาล เป็นหัวเหล็กพื้นเสริมเหล็ก มีน้ำหนักมากกว่า

5. รองเท้าเซฟตี้ รุ่นไหนดีที่สุด

  • ถ้า รองเท้าหัวเหล็ก ที่ใช้งานโดยทั่วๆไปแล้ว ไม่ได้เฉพาะเจาะจงว่าต้องป้องกันอะไรเป็นพิเศษนอกจากกันการกระแทก

  • และตัดเรื่องของดีไซน์ออกแล้ว รองเท้าเซฟตี้ ที่เมื่อเทียบราคากับวัสดุที่ใช้แล้วคุ้มค่าที่สุดก็คือรุ่น OSCAR1 หุ้มส้น / OSCAR2 หุ้มข้อ

  • เพราะรุ่นที่สูงกว่านี้จะเป็นเรื่องของ Design การออกแบบที่ทันสมัยสวยงาม

6. รองเท้าเซฟตี้ รุ่นที่ทนต่อน้ำมัน

  • น้ำมันกัดทุกพื้นผิววัสดุ รุ่นพื้นยางจะทนได้ในระดับต่ำกว่า เช่น อาร์มสตรอง แฮมเมอร์

  • ส่วนพื้น PU จะทนได้ในระดับที่สุงกว่า เช่น รุ่น ROCCO Safetyrun Safetyboy

  • ส่วนพื้น Dual Density PU ทนได้ในระดับค่อนข้างสูงมากครับเช่น รุ่น BESTRUN BESTBOY

7. มีมาตรฐาน มอก.รับรองมั้ย

  • รองเท้าหัวเหล็ก ยี่ห้อ Safety Jogger ทุกรุ่นของประเทศเบลเยี่ยม เป็นรองเท้านำเข้า

  • ดังนั้นจะเป็นมาตรฐานยุโรป (CE Mark) เพราะเป็นที่ยอมรับของทุกประเทศทั่วโลก

  • ซึ่งต่างจาก มอก.ไทย จะเป็นที่ยอมรับของประเทศไทยเท่านั้น

มาตรฐานยุโรป EN 345 และ ISO EN20345 สามารถดูรายละเอียดที่นี่

มาตรฐานรองเท้าเซฟตี้

8. รองเท้าเซฟตี้ ที่สั่ง ถ้าใส่ไม่ได้สามารถเปลี่ยนได้ไหม

  • รองเท้าหัวเหล็ก ที่ยังไม่ได้ใช้งาน สามารถเปลี่ยนได้

  • ในระยะเวลาไม่เกิน 1 เดือนหลังจากส่งสินค้าแล้ว

  • แต่ต้องรบกวนจัดเก็บให้สภาพเหมือนตอนที่นำไปส่งทั้งเรื่องของกล่องสินค้า

9. จะวัดไซส์ รองเท้าเซฟตี้ อย่างไร

  • สามารถวัดได้จากตารางไซส์ที่ลิงค์นี้ครับ [ตารางไซด์] วัดขนาดตามความยาวเท้าเป็นหลัก

  • เนื่องจาก รองเท้าเซฟตี้ ของบริษัททุกรุ่น จะมีหน้ารองเท้าที่กว้าง ไม่บีบปลายเท้า

  • ทำให้เท้าบางท่านที่กว้างจะไม่ไปบีบปลายเท้า

  • ยกเว้นรุ่นของผู้หญิง เช่น Organic  Ceres  และ Bestgirl

  • ขนาดที่วัดได้ควรแจ้งเป็นขนาดของ EU เป็นหลัก ตั้งแต่ 35-47

  • เนื่องจากว่าถ้าแจ้งเป็นเลขตัวเดียวเช่นเบอร์ 7 เบอร์ 8  หน่วยของ UK และ US 

  • จะมีการเหลื่อมกันเล็กน้อย ทำให้อาจจะสับสนได้

รองเท้าของทางร้านกรณีสั่งไปแล้วใส่ไม่ได้ สามารถเปลี่ยนได้

คลิก ตารางไซด์รองเท้า

10. รองเท้าเซฟตี้ มีรุ่นใหนเบาบ้าง

  • รองเท้าหัวเหล็ก ของบริษัทเบาทุกรุ่น เนื่องจากทำจากพื้นยาง และพื้น PU

  • น้ำหนักเฉลี่ยต่อข้าง size 41 จะอยู่ที่น้ำหนัก 500-600 กรัม

  • ไซด์ที่ใหญ่ขึ้นและเล็กลงจัดหนักขึ้นและเบาลงตามลำดับ

  • ซึ่งแตกต่างจากรองเท้าพื้นยางไนไตร์ ที่ส่วนใหญ่แล้วจะมีน้ำหนักตั้งแต่ 2.5 กิโลกรัมขึ้นไป

11. รองเท้าเซฟตี้ รับแรงได้ 200 จูลเทียบหมายความว่าอย่างไร ป้องกันอะไรได้บ้าง

  • สมมติถ้าของตกใส่เท้า น้ำหนัก 10 กิโลกรัม สูงจากพื้น 1 เมตร สามารถคำนวนเบื้องต้นได้ดังนี้

  • จูล = นิวตัน * เมตร

  • 1 กิโลกรัม = 9.81 นิวตัน 

  • ของ 10 กิโลกรัม = 98.1 นิวตัน

  • คูณระยะความสูง 1 เมตร

  • เท่ากับว่าแรง = 98.1 นิวตัน * 1 เมตร

  • เท่ากับ 98.1 จูล 

  • ดังนั้นสามารถกันแรงกระแทกได้

  • แต่ทั้งนี้ รองเท้านิรภัย จะช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบา ถ้าเกิดมีแรงกระแทกที่มากกว่า 200 จูล

200จูล = นน.(กก.)*สูง(ม.)*9.81

ถ้าของ 20 กก. จะกันแรงกระแทกได้ที่ความสูงประมาณ 1 เมตร

ถ้าของ 10 กก. จะกันแรงกระแทกได้ที่ความสูงประมาณ 2 เมตร

12. ทำไม รองเท้าเซฟตี้ รุ่นแพงกว่าถึงหนักกว่า

  • รุ่นที่สเปคสุงกว่าส่วนใหญ่จะหนักกว่า

  • เพราะจะใส่วัสดุป้องกันอะไรมากกว่า

  • รวมทั้งพื้นรองเท้าที่เป็นสเปคสูงกว่าก็จะหนักกว่าครับ

13. รองเท้าเซฟตี้ รุ่นไหนราคาถูกที่สุด

  • รองเท้าหัวเหล็ก รุ่นอาร์สตรองและแฮมเมอร์

14. ทางบริษัทมีนโยบายการจัดส่งสินค้าอย่างไร

  • ทางบริษัทมีรถจัดส่งสินค้าทั้งในกรุงเทพและปริมณฑล ชำระเงินปลายทางได้

  • กรณีต่างจังหวัดสามารถจัดส่งได้ทั้งทางขนส่งเอกชน / Flash / ไปรษณีย์ไทย / Kerry ตามแต่ตกลง

  • กรณีสั่งสินค้าจำนวนมาก บริษัทมีจัดส่งในพื้นที่ชลบุรี ฉะเชิงเทรา อยุธยา นครปฐม ราชบุรี

  • ระยะเวลาการจัดส่ง กทม.และขนส่งเอกชนในวันทำการถัดไป

  • Flash ตัดรอบ 15.30 น.ส่งวันที่สั่งสินค้า

  • กรณีเร่งด่วนส่งผ่าน LALAMOVE

ทางบริษัทมีนโยบายที่จะจัดหาสินค้าที่มีคุณภาพในราคาคุ้มค่า

และจะการพัฒนาเรื่องการส่งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

รองเท้าเซฟตี้

ความสำคัญของรองเท้าเซฟตี้

รองเท้าเซฟตี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในหลายๆ อาชีพ โดยเฉพาะในงานที่มีความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บหรืออุบัติเหตุ รองเท้าที่เหมาะสมสามารถป้องกันอันตรายและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ นี่คือเหตุผลและความสำคัญของการสวมใส่รองเท้าเซฟตี้

1. ป้องกันการบาดเจ็บจากของหนักตกใส่

รองเท้าเซฟตี้มักมีส่วนหัวรองเท้าที่ทำจากวัสดุแข็งแรง เช่น เหล็กหรือวัสดุคอมโพสิต เพื่อป้องกันการบาดเจ็บหากมีวัตถุหนักตกใส่เท้า การป้องกันนี้สำคัญมากในงานก่อสร้าง อุตสาหกรรมการผลิต และการขนส่ง

2. ป้องกันการเจาะทะลุ

พื้นรองเท้าเซฟตี้มักทำจากวัสดุที่ทนทานต่อการเจาะ เช่น เหล็กหรือคอมโพสิต เพื่อป้องกันไม่ให้ของแหลมคม เช่น ตะปู เศษโลหะ หรือเศษแก้ว ทะลุผ่านเข้ามาทำให้เกิดบาดเจ็บที่เท้า

3. ป้องกันการลื่นล้ม

รองเท้าเซฟตี้มีพื้นรองเท้าที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อเพิ่มแรงยึดเกาะและป้องกันการลื่นล้ม ซึ่งเป็นปัญหาที่พบบ่อยในสถานที่ทำงานที่มีพื้นผิวลื่น เช่น โรงงานผลิตอาหาร โรงงานเคมี และพื้นที่ก่อสร้าง

4. ป้องกันไฟฟ้าช็อต

รองเท้าเซฟตี้บางรุ่นออกแบบมาเพื่อป้องกันการเกิดไฟฟ้าช็อต โดยมีคุณสมบัติเป็นฉนวนไฟฟ้า เหมาะสำหรับการทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงจากไฟฟ้า เช่น งานซ่อมบำรุงไฟฟ้าและงานในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับไฟฟ้า

5. ป้องกันสารเคมีและของเหลว

รองเท้าเซฟตี้ที่ทำจากวัสดุเฉพาะทางสามารถป้องกันการซึมผ่านของสารเคมีและของเหลวต่างๆ ทำให้เท้าไม่สัมผัสกับสารเคมีที่เป็นอันตราย ซึ่งเหมาะสำหรับงานในอุตสาหกรรมเคมีและงานที่ต้องสัมผัสกับของเหลวที่เป็นอันตราย

6. เพิ่มความมั่นใจและประสิทธิภาพในการทำงาน

การสวมใส่รองเท้าเซฟตี้ที่เหมาะสมช่วยให้พนักงานมีความมั่นใจในการทำงานมากขึ้น เนื่องจากรู้สึกว่าตนเองได้รับการปกป้องจากอันตรายต่างๆ นี้สามารถนำไปสู่การทำงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

7. การปฏิบัติตามข้อกำหนดและกฎหมาย

ในหลายๆ ประเทศและอุตสาหกรรม การสวมใส่รองเท้าเซฟตี้เป็นข้อบังคับตามกฎหมายหรือมาตรฐานความปลอดภัยของสถานที่ทำงาน การปฏิบัติตามข้อกำหนดเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกปรับหรือการถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย

8. การส่งเสริมวัฒนธรรมความปลอดภัยในที่ทำงาน

การส่งเสริมให้พนักงานสวมใส่รองเท้าเซฟตี้เป็นการส่งเสริมวัฒนธรรมความปลอดภัยในที่ทำงาน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการลดอุบัติเหตุและสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยและมีความสุข

รองเท้าเซฟตี้

ประเภทของรองเท้าเซฟตี้

รองเท้าเซฟตี้มีหลายประเภทที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะด้านของงานแต่ละประเภท โดยแต่ละประเภทมีคุณสมบัติและการป้องกันที่แตกต่างกันไป ดังนี้:

1. รองเท้าหัวเหล็ก (Steel Toe Boots)

  • คุณสมบัติ: มีส่วนหัวของรองเท้าที่ทำจากเหล็กหรือวัสดุแข็งอื่นๆ เช่น คอมโพสิต
  • การป้องกัน: ป้องกันการบาดเจ็บจากวัตถุหนักตกใส่หรือกระแทก
  • การใช้งาน: งานก่อสร้าง, งานอุตสาหกรรม, งานขนส่ง

2. รองเท้าป้องกันการเจาะทะลุ (Puncture Resistant Boots)

  • คุณสมบัติ: พื้นรองเท้ามีแผ่นเหล็กหรือวัสดุแข็งที่ทนต่อการเจาะทะลุ
  • การป้องกัน: ป้องกันการเจาะจากของแหลมคม เช่น ตะปู, เศษโลหะ
  • การใช้งาน: งานก่อสร้าง, งานไม้, งานอุตสาหกรรมที่มีเศษวัสดุแหลมคม

3. รองเท้ากันลื่น (Slip Resistant Shoes)

  • คุณสมบัติ: พื้นรองเท้าออกแบบมาเพื่อเพิ่มแรงยึดเกาะ
  • การป้องกัน: ป้องกันการลื่นล้มบนพื้นผิวที่เปียกหรือลื่น
  • การใช้งาน: งานในครัว, งานโรงงานผลิตอาหาร, งานทำความสะอาด

4. รองเท้าป้องกันไฟฟ้า (Electrical Hazard Boots)

  • คุณสมบัติ: มีคุณสมบัติเป็นฉนวนไฟฟ้า
  • การป้องกัน: ป้องกันไฟฟ้าช็อต
  • การใช้งาน: งานซ่อมบำรุงไฟฟ้า, งานในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับไฟฟ้า

5. รองเท้ากันน้ำและสารเคมี (Chemical Resistant Boots)